ซ่อมสีรถยนต์ เป็นเรื่องที่เจ้าของรถต้องเจอไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วนเล็กๆ , ความเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือความเสื่อมสภาพตามกาลเวลา แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องซ่อมสีรถยนต์จริงๆ คำถามหนึ่งที่ต้องผุดขึ้นมาในหัวเลยคือ “จะเลือกอู่ไหนดี?” เพราะหากเลือกผิด อาจทำให้รถของคุณเสียสภาพ ราคาสูงเกินความจำเป็น หรือได้รับบริการที่ไม่มีมาตรฐานดังนั้น ก่อนตัดสินใจซ่อมสีรถ ลองมาดู 6 ปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณเลือกอู่ซ่อมสีที่ได้ผลงานที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
ปัจจัยสำคัญในการเลือกอู่หรือศูนย์บริการ ซ่อมสีรถยนต์

1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของช่าง
ช่างซ่อมสีรถยนต์ก็เปรียบเสมือนศิลปิน ที่ต้องเข้าใจทั้งศาสตร์และศิลป์ในการตกแต่ง และยังต้องมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่น่าเชื่อถือด้วย ฉะนั้นเวลาเลือกศูนย์ซ่อมสีรถยนต์ อย่าลืมพิจารณาความเชี่ยวชาญของช่างตามนี้
- ตรวจสอบรีวิวจากลูกค้า – ดูรีวิวออนไลน์จากเว็บไซต์รีวิวหรือเพจโซเชียลมีเดียของอู่ สอบถามจากคนรู้จักที่เคยใช้บริการ หรือขอดูผลงานที่ผ่านมา ยิ่งมีประสบการณ์มากเท่าไร ช่างก็จะยิ่งมีความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเฉพาะทางมากขึ้น
- เลือกช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสีรถยนต์ – อู่ที่มีช่างเฉพาะทางด้านการซ่อมสีโดยเฉพาะจะทำงานได้ดีกว่าอู่ทั่วไป เพราะมีความรู้ลึกในเรื่องสีรถยนต์ การผสมสี และเทคนิคการพ่นสีที่เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละรุ่น
- เทคโนโลยีที่ใช้ในการพ่นสี – ดูว่าศูนย์ซ่อมสีหรืออู่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่ทำให้การซ่อมสีรถยนต์ได้คุณภาพหรือไม่ เช่น ระบบผสมสีคอมพิวเตอร์ ห้องพ่นสีมาตรฐาน เป็นต้น
2. ความสะดวกสบายและระยะทาง
เรื่องความสะดวกเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการซ่อมสีรถยนต์อาจใช้เวลาหลายวัน คุณควรพิจารณา
- เลือกอู่ใกล้บ้านหรือตามเส้นทางที่เดินทางสะดวก – อู่ที่ตั้งอยู่ในเส้นทางที่คุณสะดวก จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดตามงาน หรือรับ-ส่งรถ
- เช็กเวลาทำการและระยะเวลาซ่อม – ตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดของอู่ว่าตรงกับเวลาที่คุณสะดวกหรือไม่ และสอบถามระยะเวลาโดยประมาณที่ใช้ในการซ่อม เพื่อวางแผนการใช้รถของคุณได้อย่างเหมาะสม บางอู่อาจมีบริการรถยืมใช้ระหว่างซ่อม ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับคนที่ต้องใช้รถเป็นประจำ
3. ราคาและความคุ้มค่า ในการ ซ่อมสีรถยนต์
ราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะราคาถูกที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป
- เปรียบเทียบราคาซ่อมสีจากหลายที่ – ควรขอใบเสนอราคาจากอู่หลายๆ แห่ง เพื่อเปรียบเทียบราคาและบริการที่จะได้รับ
- ตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม – สอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่าแรง ค่าอะไหล่ ค่าวัสดุสิ้นเปลือง และอื่นๆ เพื่อป้องกันการบวกราคาเพิ่มในภายหลัง
- ควรเลือกคุณภาพที่เหมาะสมกับราคา – พิจารณาความคุ้มค่าโดยรวม ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนใบเสนอราคา การซ่อมสีที่มีคุณภาพอาจมีราคาสูงกว่า แต่จะให้ความทนทานและความสวยงามที่คงอยู่ได้นานกว่า ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมซ้ำในระยะยาว
ติดต่อ Sakura Auto Sales ฝ่าย Service
4. คุณภาพของวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้

คุณภาพของงานพ่นสีรถยนต์ไม่ได้อาศัยเพียงฝีมือช่าง แต่ขึ้นอยู่กับวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเลือก
- สีพ่นรถยนต์ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน – เลือกใช้สีคุณภาพสูงจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ สีที่มีคุณภาพจะช่วยให้เฉดสีตรงกับสีเดิมของรถ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ซีดจางง่าย และไม่ลอกเมื่อเวลาผ่านไป จึงควรสอบถามยี่ห้อสีที่ใช้และเทคโนโลยีการผสมสีของอู่ด้วย
- เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ในกระบวนการซ่อม – อู่ที่มีมาตรฐานจะมีเครื่องมือพิเศษสำหรับงานซ่อมสี เช่น เครื่องผสมสีระบบคอมพิวเตอร์ ห้องพ่นสีมาตรฐานที่ควบคุมฝุ่นและอุณหภูมิ อุปกรณ์ขัดสีคุณภาพสูง ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อความสวยงามและความทนทานของสีรถยนต์
5. การรับประกันงาน ซ่อมสีรถยนต์
การรับประกันงานซ่อมสีของอู่หรือศูนย์ซ่อม จะสะท้อนถึงความมั่นใจในคุณภาพงานที่ทำ จึงต้องสอบถามเรื่องการรับประกันเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกอู่ด้วยเช่นกัน
- ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันงานซ่อม – อู่ที่มีมาตรฐานควรมีการรับประกันงานซ่อมสีอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป ซึ่งครอบคลุมปัญหาเช่น สีซีดจาง สีลอกล่อน หรือสีแตกลายงา
- มีเงื่อนไขการเคลมสีหรือไม่ – สอบถามเงื่อนไขการรับประกันให้ชัดเจน ว่าครอบคลุมปัญหาใดบ้าง มีข้อยกเว้นอะไร และมีขั้นตอนในการเคลมอย่างไร อู่ที่ให้รายละเอียดชัดเจนและเต็มใจรับผิดชอบหากเกิดปัญหา แสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพงานของตน
6. สามารถเคลมประกันได้หรือไม่
ในส่วนนี้ หากความเสียหายอยู่ในความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย การเลือกอู่ที่รองรับการเคลมประกันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
- ตรวจสอบว่าอู่หรือศูนย์บริการรองรับการเคลมประกันหรือไม่ – เช็กว่าอู่นั้นเป็นคู่สัญญากับบริษัทประกันของคุณหรือไม่ หากเป็นอู่คู่สัญญา คุณจะไม่ต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมไปก่อน (กรณีประกันชั้น 1) หรือได้รับความสะดวกในการเคลมมากกว่า
- มีการประสานงานกับบริษัทประกันให้หรือไม่ – อู่ที่มีประสบการณ์จะช่วยประสานงานกับบริษัทประกันให้คุณ ตั้งแต่การแจ้งเคลม การนัดตรวจสภาพรถ จนถึงการอนุมัติซ่อม ทำให้กระบวนการเคลมประกันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
การเลือกอู่ซ่อมสีรถยนต์ที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะส่งผลต่อคุณภาพงานซ่อมและความพึงพอใจในระยะยาว และด้วย 6 ข้อที่ว่ามานี้ อาจจะช่วยให้คุณสามารถเลือกศูนย์หรืออู่ซ่อมสีรถยนต์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้
บริการซ่อมสีรถยนต์ ด้วยวัสดุคุณภาพสูงโดยช่างมากฝีมือ ที่ Sakura Auto Sales
ที่ Sakura Auto Sales เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสีรถยนต์มากประสบการณ์ พร้อมด้วยวัสดุและสีคุณภาพสูง หากคุณกำลังมองหาบริการซ่อมสีรถยนต์ที่มีคุณภาพ และบริการที่ประทับใจ Sakura Auto Sales พร้อมให้บริการและดูแลรถที่คุณรักด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด
ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ รับบริการซ่อมบำรุงและดูแลรักษารถยนต์ของคุณโดยทีมงานมืออาชีพ ติดต่อ Sakura Auto Sales เลย!
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://sakuraautosales.com/
นัดจองคิว สอบถาม ฝ่าย Service ที่ LINE OA: https://lin.ee/d7gcqPwK
หรือโทร 02-077-9248, 082-655-1188
เปิดบริการทุกวัน 09.00 – 18.00 น.