เดินทางไกล เช็คอะไรบ้าง ก่อนออกทริปเดินทางไกล อย่าลืมเตรียมรถให้พร้อม! Sakura Auto Sales ขอชวนทุกคนมาเช็คไปพร้อมกันพร้อมแนะนำวิธีเตรียมความพร้อมรถยนต์ของคุณก่อนออกเดินทางไกล เพื่อให้ทริปของคุณราบรื่นและปลอดภัยตลอดการเดินทาง

ทำไมการเช็ครถก่อนเดินทางไกลถึงสำคัญ? เดินทางไกล เช็คอะไรบ้าง

• ป้องกันอุบัติเหตุจากความขัดข้องของรถ – รถที่สภาพไม่พร้อมใช้งานอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถเป็นระยะทางไกล ขับด้วยความเร็วสูง หรือในสภาพถนนที่ไม่คุ้นเคย
  
• เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร – การตรวจสอบระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น เบรก ไฟ และยาง ช่วยปกป้องคุณและครอบครัวจากอันตรายระหว่างการเดินทาง
  
• ประหยัดค่าใช้จ่าย – รถที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงดีกว่า ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น และลดโอกาสที่จะต้องเสียค่าซ่อมฉุกเฉินระหว่างทางซึ่งอาจจะต้องจ่ายแพงกว่าการซ่อมบำรุงปกติอีกด้วย
  
• พร้อมรับมือกับสภาพถนนและการจราจรในช่วงเทศกาล – เพราะช่วงเทศกาลมักมีการจราจรหนาแน่น ที่ทำให้ต้องหยุดรถบ่อย หรือเบรกกะทันหันบ่อยขึ้น อีกทั้งในบางเทศกาลเช่น สงกรานต์ ยังอาจจะต้องเจอกับถนนเปียกอีกด้วย หรือสภาพท้องถนนก็มีส่วนสำคัญ เช่นการขึ้น-ลงเขา ปัจจัยเหล่านี้ เสี่ยงต่ออุบัติเหตุอย่างมาก รถจึงควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อให้รับมือสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้น
  
• ลดความเครียดหรือการไม่แฮปปี้ลง –  แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้ช่วงเวลาแห่งความสุข จะต้องมาเครียดหรือกังวลเวลารถเสียระหว่างทางอย่างแน่นอน ดังนั้นการเตรียมพร้อมรถก็ช่วยสร้างความสบายใจได้ในระดับหนึ่ง

เช็กลิสต์เตรียมรถ เดินทางไกล เช็คอะไรบ้าง ? 

ระบบเครื่องยนต์

น้ำมันเครื่อง และไส้กรอง – ตรวจสอบว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับที่ถูกต้องและมีสีที่ไม่ดำเกินไป หรือเพื่อความแน่ใจควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองก่อนเดินทาง

ระดับน้ำหล่อเย็น – ตรวจสอบระดับให้อยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX ในถังพัก และสังเกตสีของน้ำหล่อเย็นว่ายังใสไม่ขุ่นหรือมีสนิม

ตรวจสอบสายพาน และการรั่วซึมของของเหลว – ตรวจดูรอยแตกร้าว เสียงดังผิดปกติ และตรวจสอบใต้ท้องรถเพื่อหาร่องรอยการรั่วซึมของน้ำมันหรือของเหลวต่างๆ

ระบบเบรก

ความหนาของผ้าเบรก – ผ้าเบรกที่บางเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพการเบรกลดลง ควรตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกว่ายังเหลือมากกว่า 3-4 มิลลิเมตร

น้ำมันเบรก– ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกในกระปุกให้อยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX หากน้ำมันเบรกมีสีคล้ำหรือใช้งานมานานกว่า 2 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยน

เบรกมีเสียงดังหรืออาการผิดปกติ – สังเกตว่าเมื่อเหยียบเบรกแล้วมีเสียงดังผิดปกติ แรงเบรกไม่สม่ำเสมอ หรือมีอาการสั่นหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรนำรถเข้าตรวจสอบทันที

ยางและล้อ

ความดันลมยาง – ตรวจสอบความดันลมยางทุกเส้นรวมถึงยางอะไหล่ให้เป็นไปตามค่าที่ผู้ผลิตแนะนำ (มักติดอยู่ที่ขอบประตูด้านคนขับหรือฝาปิดถังน้ำมัน) ยางที่มีลมไม่เหมาะสมอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

สภาพดอกยาง – ตรวจสอบความลึกของดอกยางว่ายังมากกว่า 1.6 มิลลิเมตร และดูรอยแตก บวม หรือความเสียหายที่ผนังยาง

ยางอะไหล่และเครื่องมือเปลี่ยนยาง – ตรวจสอบว่ายางอะไหล่อยู่ในสภาพดี และมีเครื่องมือครบถ้วน เช่น แม่แรง ประแจล็อคล้อ อุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ

ตรวจสอบการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ – หากรถมีอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่งขณะขับ หรือยางสึกไม่เท่ากัน อาจเป็นสัญญาณว่าการตั้งศูนย์ถ่วงล้อมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้ยางสึกเร็วและสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น

ระบบไฟและแบตเตอรี่

ไฟหน้า-ท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว – ตรวจสอบไฟทุกดวงว่าทำงานได้ตามปกติ ทั้งไฟหน้า ไฟเบรก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่คนอื่นสามารถเห็นไฟคุณได้

แบตเตอรี่ – ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่าสะอาดและแน่นหนา สังเกตว่ารถสตาร์ทติดยากหรือไฟหน้าหรี่ลงขณะรถเดินเบาหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เริ่มอ่อน โดยทั่วไปแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและคุณภาพของแบตเตอรี่

ที่ปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก – ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนว่ายังอยู่ในสภาพดี ไม่แข็งกระด้างหรือฉีกขาด และเติมน้ำยาฉีดกระจกให้เพียงพอ เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่ต้องขับขี่ในช่วงฝนตกหรือมีฝุ่นละออง ใบปัดน้ำฝนควรเปลี่ยนทุก 6-12 เดือนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ระบบปรับอากาศและการระบายอากาศ

• ตรวจสอบการทำความเย็น – หากรู้สึกว่าเย็นน้อยลงหรือมีกลิ่นอับชื้น อาจต้องเติมน้ำยาแอร์หรือทำความสะอาดระบบ
• เช็คกรองอากาศในห้องโดยสาร – ควรเปลี่ยนทุก 15,000-30,000 กิโลเมตรหรือเมื่อสังเกตเห็นว่าสกปรก
• ตรวจสอบพัดลมระบายความร้อน – พัดลมที่ทำงานผิดปกติอาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปในการเดินทางไกล

แนะนำของที่ควรมีติดรถ 

1. เครื่องมือช่างพื้นฐาน เช่น แม่แรง ประแจ – เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเบื้องต้น เช่น การเปลี่ยนยาง
2. สายพ่วงแบต – ใช้ขอความช่วยเหลือพ่วงแบตจากคันอื่น กรณีแบตเตอรี่หมด 
3. ไฟฉาย และพาวเวอร์แบงก์ – สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่นแบตมือถือหมด หรือใช้ส่องในเวลากลางคืน
4. ชุดปฐมพยาบาล – สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย
5. น้ำดื่มและอาหารสำรอง – สำหรับกรณีติดอยู่บนถนนเป็นเวลานาน
6. เสื้อสะท้อนแสงและป้ายสามเหลี่ยม – เพื่อความปลอดภัยหากต้องจอดรถข้างทาง

แม้ว่าจะมีหลายจุด หลายขั้นตอนก็จริง แต่การเช็คและเตรียมพร้อมรถก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่ถ้าหากไม่สะดวกเช็คด้วยตัวเอง สามารถมาได้เลยที่ Sakura Auto Sales!

ให้ Sakura Auto Sales ดูแลรถคุณให้พร้อมก่อนออกทริปทางไกล

วางแผนล่วงหน้า ให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น เราพร้อมดูแลครอบคลุมทุกจุดสำคัญก่อนเดินทางไกล บริการสำหรับรถยนต์ทุกแบรนด์ ทุกรุ่น ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ตรวจเช็คละเอียด พร้อมให้คำแนะนำ

พร้อมให้บริการรถยนต์ทุกแบรนด์และทุกรุ่น ด้วยทีมช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ตรวจเช็คของละเอียดทุกจุด

จองคิวที่ Sakura Auto วันนี้!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://sakuraautosales.com/
นัดจองคิว สอบถาม ฝ่าย Service ที่ LINE OA: https://lin.ee/d7gcqPwK
หรือโทร 02-077-9248, 082-655-1188
เปิดบริการทุกวัน 09.00 – 18.00 น.